แฟนบอลวาลาดอลิดถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาก่ออาชญากรรมเกลียดชังจากการเหยียดเชื้อชาติ Vinicius

ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างการแข่งขันฟุตบอล La Liga เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา แฟนบอลจากทีมสโมสรเรอัล วาลาดอลิด ถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาก่ออาชญากรรมเกลียดชัง เนื่องจากการใช้ข้อความโจมตี Vinicius Junior นักฟุตบอลดาวเด่นของสโมสรเรอัล มาดริด

ในสนามกีฬา José Zorrilla ขณะที่ Vinicius ลงสนาม แฟนบอลบางกลุ่มได้มีการใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสม ซึ่งเป็นการเหยียดเชื้อชาติและสร้างความเกลียดชังต่อเขา ส่งผลให้มีการสอบสวนและแจ้งความเรียบร้อย ในที่สุดศาลได้ตัดสินให้แฟนบอลจากวาลาดอลิดจำนวน 4 คนมีความผิดจริง

ผู้ต้องหาทั้งสี่คนได้รับโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน และจะถูกห้ามเข้าชมการแข่งขันฟุตบอลเป็นระยะเวลา 5 ปี นอกจากนี้ พวกเขายังต้องชดใช้เงินค่าปรับรวมเป็นเงิน 45,000 ยูโรแก่รัฐ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวได้ทำให้วงการฟุตบอลตระหนักถึงปัญหาการเหยียดเชื้อชาติที่ยังคงเกิดขึ้น

คำว่า "การเหยียดเชื้อชาติไม่มีที่สำหรับฟุตบอล" เป็นเสียงสะท้อนที่สร้างความมุ่งมั่นให้ผู้คนในวงการนี้ร่วมกันต่อสู้และยุติปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเป็นธรรมสำหรับนักกีฬาและแฟนบอลทุกคน

ในช่วงเวลาที่ผ่านมาฟุตบอลได้รับการผลักดันเพื่อมีมาตรการที่เข้มงวดต่อการเหยียดเชื้อชาติ และกรณีของ Vinicius ถือเป็นการเตือนให้สังคมเห็นถึงความสำคัญของการต่อต้านทัศนคติที่ไม่พึงประสงค์ซึ่งยังคงมีอยู่ในวงการกีฬา

ที่มา https://www.espn.com/soccer/story/_/id/45252211/valladolid-fans-found-guilty-hate-crime-vinicius-insults

เผยแพร่เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2568 22:11 หมวดหมู่: กีฬา จำนวนผู้เยี่ยมชม: 51